วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

[Interview/trans] Today's radio Mai's Asian Wave

[Today's radio Mai's Asian Wave] JUNIEL's high school is art major school, and the uniform is designed by a designer. While uniforms are usually in dark color, her school's jacket is yellow. The skirt is a little shorter than usual. But as they look fat when they wear it, students tend to try dieting. lol.


[Today's radio Mai's Asian Wave] จูเนียลเป็นนักเรียนไฮสคูลสายศิลป์  เครื่องแบบนักเรียนได้รับการออกแบบโดยดีไซน์เนอร์  เครื่องแบบเป็นสีเข้ม  เสื้อนอกเป็นสีเหลือง  กระโปรงก็ดูสั้นกว่าปกตินิดหน่อย  มันทำให้ดูอ้วนเวลาที่สวมเครื่องแบบ  นักเรียนเลยมีแนวโน้มว่าจะไดเอทกัน

Q: You sings both of hard songs and mild/soft songs. Which style do you think suits you better?
A: In fact, I have two hard songs, "Pinocchio" and "The Little Prince". If you read the lyrics, you will find that both of them are mild/gentle. Like "please hear my story".. I think they feel gentle all in all. 
Q: Oh I see. Although they are hard songs, they also have mild/gentle feelings in the lyrics. That sounds nice.


Q: คุณร้องเพลงที่หลากหลายมาก  คุณคิดว่าแบบไหนกันแน่ที่เหมาะกับคุณ
A: ที่จริงแล้วฉันมีเพลงหนัก ๆ สองเพลงคะ  "Pinocchio" กับ "The Little Prince"  แต่ถ้าได้ลองอ่านเนื้อเพลงคุณจะรู้ว่าทั้งสองเพลงเป็นเพลงที่อ่อนโยนคะ  เหมือนกับว่า "ได้โปรดฟังเรื่องของเราด้วยครับ"  ฉันคิดว่าพวกเขาอ่อนโยนนะคะ
Q: ใช่จริง ๆ ด้วย  ถึงแม้ว่าจะเป็นเพลงที่หนัก  แต่เนื้อเพลงให้ความรู้สึกอ่อนโยน  ฟังดูดีนะ


Q: What feeling of graduation did you put in "Sakura ~todokanu omoi~"?
A: I have not graduated from high school yet, but I experienced graduation at junior high school and elementary school... I put my feeling at those times.
Q: You feel lonely at graduation, right?
A: Yes. I didn't cry at graduation ceremony, but I cried after I came back home.(laugh)
Q: Ahh it reminds me of that day.. I hope the listeners to remember that feeling too ^^


Q: ความรู้สึกเกี่ยวกับการจบการศึกษาแบบไหนที่คุณใส่ลงไปในเพลง "Sakura ~todokanu omoi~"
A : ฉันยังไม่จบไฮสคูลคะ  แต่ฉันก็มีประสบการณ์จากการจบมัธยมต้นคะ  ฉันใส่ความรู้สึกนั้นลงไปในเพลง
Q: คุณรู้สึกเหงาใช่ไหม
A: ใช่คะ  ฉันไม่ได้ร้องไห้ตอนพิธีจบการศึกษาแต่ฉันร้องไห้ตอนที่กลับถึงบ้าน (หัวเราะ)
Q : อ๊า...มันทำให้ฉันนึกถึงตอนนั้น  ฉันหวังว่าคนฟังจะจดจำความรู้สึกแบบนั้นได้เช่นกัน


Q: I was moved when I read your lyrics. Although you're still young, you can write this deep lyrics... When do you get the inspiration?
A: I often watch news. I value people's feeling/emotion. I think it would gradually disappear worldwide. Like they love PC? 
Q: Many people are focusing on internet.
A: Yes. They are always touching even when they're with others. I feel they lose emotions and they are getting selfish... (I hope) many people will leave PC and...hmm...
Q: It'd be better if we understand the importance of connecting with others?
A: Right right.
Q: Indeed, although sometimes we can connect with others via internet, but if you directly see, hear and feel others...
A: I felt nostalgic. These days.
Q: Wow you consider it seriously.
A: huhuhu (laugh)


Q: ฉันตื่นเต้นตอนที่ได้อ่านเนื้อเพลงของคุณ  คุณอายุน้อยแต่สามารถเขียนเพลงที่ลึกซึ้งได้    คุณเอาแรงบันดาลใจมาจากไหนกัน
A: ฉันดูข่าวเป็นประจำคะ  ฉันให้ความสำคัญกับความรู้สึกของผู้คน  ฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้กำลังจะหายไปในยุคเวิร์ดไวล์  คุณชอบคนที่รักคอมพิวเตอร์มั๊ยคะ
Q: มีคนมากมายที่ให้ความสนใจกับอินเทอร์เน็ตนะ
A: .ใช่คะ  พวกเขาจะสัมผัส(หน้าจอหรือทัชสกรีน)อยู่เสมอแม้ว่าพวกเขาจะอยู่กับคนอื่น  ฉันรู้สึกว่าพวกเขาไร้อารมณ์และค่อนข้างเห็นแก่ตัว  (ฉันหวัง) ว่าผู้คนมากมายจะเลิกสนใจคอมพิวเตอร์ แล้ว.....
Q: มันจะดีกว่าถ้าเราจะเข้าใจว่าการสื่อสารกับคนอื่นสำคัญมากกว่าใช่ไหม
A: ใช่คะ
Q: ที่จริงแล้ว  บางครั้งเราสามารถติดต่อกับผู้คนผ่านทางอินเตอร์เน็ต  แต่ถ้าได้เห็น ได้ยิน และรู้สึก....
A: ฉันรู้สึกคิดถึง  อย่างวันนี้
Q: ว้าวว  คุณดูจริงจังนะ
A : หัวเราะ

Eng Cr. Yellow Shoes, ylwshs@twitter.com
Thai trans : @Bua2be
Please take out with full credit.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น