(T/N ได้มาเฉพาะส่วนของพี่จงค่ะ ของน้องจูนรออีกสักหน่อย เดี๋ยวมาอัพให้ค่ะ)
[สุขภาพ]
เมื่อการถ่ายภาพนิ่งเสร็จสิ้นลง
จงฮยอนก็คว้ากีต้าร์ของเขามากอดไว้เหมือนกับทุกครั้ง ใน CNBLUE
เขาคือมือกีต้าร์และนักร้อง
CNBLUE เดบิวต์ในปี 2010 ด้วยเพลงดังอย่าง I’m a Loner. ถ้าคุณไม่เคยได้ยินเพลงนี้ คุณคงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในเกาหลีหรือไม่ก็อยู่ในที่ห่างไกลจากโลกนี้เป็นแน่ นับตั้งแต่เดบิวต์จนเป็นที่จดจำของผู้คนมากมาย CNBLUE ก็ไม่เคยได้หยุดพักเลย
พวกเขาวางแผนอัลบั๊มเพลง First Step ที่แต่งกันเอง และมินิอัลบั๊ม Re:BLUE ทั้งนี้ยังมีอารีน่าทัวร์ที่ประเทศญี่ปุ่นและเวิร์ลทัวร์ที่เริ่มจากลอนดอน และยังคงมีกำหนดการที่ยังไม่สิ้นสุดด้วย ตารางการทัวร์ที่แน่นขนัดจะเริ่มต้นในปีใหม่นี้จากนิวยอร์ค LA ไปถึงละตินอเมริกา นี่คือชายหนุ่มผู้นี้มีความรักในสิ่งที่ตัวเองทำตามแนวทางของเขาเอง
Love Falls เพลงเดบิวต์ของเขากับจูเนียล เป็นเพลงแรกที่จะทำให้เราได้เห็นเขาไม่ใช่ในฐานะสมาชิกของ CNBLUE แต่เป็นนักดนตรีอีจงฮยอน
“ผมอยากจะทำเพลงที่เหมาะจะร้องในฤดูหนาว ผมคิดถึงการทำเพลงดูเอทกับผู้หญิง ผมไม่เคยรู้เลยว่าผมมีน้องสาวคนเล็กที่ร้องเพลงได้ดีมาก เธออยู่ใกล้ผมมากจนมองข้ามไป แม้ว่าอายุของผมกับจูเนียลจะไม่ได้ห่างกันมาก แต่ผมก็มองเธอในฐานะน้องสาวคนเล็ก พอได้ทำงานด้วยกันแบบนี้ รู้สึกเหมือนหัวใจของผมพองฟู อารมณ์แบบว่า “อ่า...นี่เราโตขึ้นแล้วสินะ” (หัวเราะ)
ที่จริงแล้ว
ดนตรีไม่ใช่ความสามารถอย่างเดียวที่เขามีในชีวิต
จงฮยอนชอบกีฬา เขาได้เหรียญทองจากยูโดสมัยเรียนมัธยม แล้วก็เปลี่ยนความตั้งใจมาเล่นดนตรีในช่วงท้ายของการเรียนไฮสคูล
หากลูกชายของคุณมีความสามารถด้านกีฬาที่โด่ดเด่นแล้วก็เปลี่ยนใจมาเล่นดนตรี คุณคงจะรู้สึกไม่ดี แต่ถึงอย่างไร
พ่อแม่ของจงฮยอนก็ยอมรับความฝันของเขา
“พ่อแม่ของผมไม่เคยบังคับหรือต่อว่าผม ท่านยังแนะนำให้ผมลองหาประสบการณ์หลาย ๆ อย่าง แต่ท่านก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะสนับสนุนผมแบบออกหน้าออกตา ผมคงต้องขอบคุณท่านเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ทำให้ผมพึ่งพาตัวเองได้ ผมต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ควบคุมตัวเอง ผมคิดแบบนี้อยู่ตลอด ตอนที่เริ่มทำงาน ผมได้ให้เครดิตการ์ดกับพ่อแม่ แต่พอไปเช็คดูก็พบว่าท่านแทบจะไม่ใช้มันเลย บางทีท่านอาจจะไม่อยากเพิ่มความเครียดให้กับผม อย่างไรก็ตามเราต่างก็ไม่เคยรบกวนซึ่งกันและกัน ซึ่งมันก็ดีครับ”
พ่อแม่ของเขาเชื่อมั่นในตัวเขาจึงเลือกที่จะเป็นเพียงคนเฝ้าดู ตอนที่เราพูดคุยกับเขา เราสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งนี้ เขามีออร่าของความดีและสุขภาพที่ดี เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ต้องการและทำมันอย่างดีที่สุด ไม่กังวลเกี่ยวกับผลของมันจนมากเกินไป หากทำพลาดเขาจะเริ่มทำใหม่อีกครั้ง เขาคิดว่ามันจะดีที่สุดหากเขาสามารถที่จะทำสิ่งที่ชอบกับคนที่เขาชอบได้ ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มผู้นี้มีมาจากข้างใน
“พ่อแม่ของผมไม่เคยบังคับหรือต่อว่าผม ท่านยังแนะนำให้ผมลองหาประสบการณ์หลาย ๆ อย่าง แต่ท่านก็ไม่ใช่คนประเภทที่จะสนับสนุนผมแบบออกหน้าออกตา ผมคงต้องขอบคุณท่านเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้ทำให้ผมพึ่งพาตัวเองได้ ผมต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ควบคุมตัวเอง ผมคิดแบบนี้อยู่ตลอด ตอนที่เริ่มทำงาน ผมได้ให้เครดิตการ์ดกับพ่อแม่ แต่พอไปเช็คดูก็พบว่าท่านแทบจะไม่ใช้มันเลย บางทีท่านอาจจะไม่อยากเพิ่มความเครียดให้กับผม อย่างไรก็ตามเราต่างก็ไม่เคยรบกวนซึ่งกันและกัน ซึ่งมันก็ดีครับ”
พ่อแม่ของเขาเชื่อมั่นในตัวเขาจึงเลือกที่จะเป็นเพียงคนเฝ้าดู ตอนที่เราพูดคุยกับเขา เราสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งนี้ เขามีออร่าของความดีและสุขภาพที่ดี เขาเลือกที่จะทำในสิ่งที่ต้องการและทำมันอย่างดีที่สุด ไม่กังวลเกี่ยวกับผลของมันจนมากเกินไป หากทำพลาดเขาจะเริ่มทำใหม่อีกครั้ง เขาคิดว่ามันจะดีที่สุดหากเขาสามารถที่จะทำสิ่งที่ชอบกับคนที่เขาชอบได้ ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มผู้นี้มีมาจากข้างใน
“ตอนที่ผมเริ่มแสดงละคร 'A
Gentleman Dignity’ ผมก็พบความสุขอีกอย่างของดนตรี”
”พูดกันแบบตรงไปตรงมา 24 ชั่วโมงก็ไม่เพียงพอสำหรับกิจกรรมของ
CNBLUE แล้ว คือคุณต้องมาให้ความสนใจกับการแสดงอีก ก็ยิ่งทำให้เวลาที่คุณจะทำเพลงน้อยลง แบบนี้ไม่เรียกว่าเป็นการเสียเวลางั้นหรือ แต่ผมก็จะพยายามทำมันด้วยความตั้งใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเงินหรือความสำเร็จก็ไม่ใช่แรงบันดาลใจของผม ผมรู้สึกขอบคุณที่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้ ได้ทำอะไรที่ผมอยากจะทำ”
ต่อด้วยจูเนียลที่นั่งฟังอยู่ข้าง
ๆ
”ตอนที่ CNBLUE เริ่มตั้งวง
ฉันถามพี่จงฮยอนว่าพี่ไม่อยากจะเป็นนักร้องนำเหรอ เขาตอบว่า ‘
พี่จะให้พี่ยงฮวาเป็นคนทำ
พี่ไม่มีปัญหาขอแค่ได้ทำดนตรีก็พอ’
เพราะความคิดแบบนั้น เขาทำเพลงจนถึงเช้า ฉันก็ไม่รู้ว่าพี่เขาอยากจะทำมันหรือปล่าว”
จากปากคำของเขา ความจริงเกี่ยวกับการทำงานจนถึงเช้า ก็คือ
“ความจริงคือ ผมมักจะทำงานเสร็จตอน 6 โมงเช้า แต่คนที่ทำงานในออฟฟิศจะมาถึงตอน 9 โมงเช้า แบบที่เรารู้กันนั่นแหละครับ มันน่าเศร้าไปสักหน่อยที่จะออกไปก่อนที่พวกเขาจะมา ผมรอจนกระทั่งพวกเขามาถึง แล้วก็ออกจากออฟฟิศให้พวกเขาเห็น คุณต้องรู้สึกไม่พอใจแน่ ๆ ถ้าไม่มีคนสังเกตเห็นคุณ (หัวเราะ)”
เป็นที่รู้กันดีว่าสมาชิก CNBLUE นั้นสนิทสนมกันมาก จูเนียลก็พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
”พวกพี่ ๆ อยู่ด้วยกัน เล่นสนุกด้วยกันแม้แต่ในวันที่ไม่มีงาน ใช้ชีวิตด้วยกัน เหมือนไม่รู้สึกรำคาญกันเลยแม้จะต้องเจอหน้ากันทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงก็ตาม”
ก่อนเดบิวต์อย่างเป็นทางการที่เกาหลี CNBLUE ได้ไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุนเพื่อพัฒนาความสามารถ บางครั้งก็เปิดการแสดงที่ข้างถนน หรือต่อหน้าผู้ชมเพียง 2-3 คน ช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นทำให้มิตรภาพของพวกเขาแน่นแฟ้น
ถ้าสไตล์ของอีจงฮยอนคือการทำงานที่ชอบกับคนที่ชอบ เขาอาจจะค้นพบความฝันแล้วก็เป็นได้
“ทุกคนในวงจะอยู่ข้าง ๆ ผมตลอดไป เราจะสนับสนุนซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
KR - Jap trans : @risa_0515 t.co/b1izLMizUu t.co/XxhEjH9bi1
Jap - English trans : @totoroNYUU and @happytmg
Thai
trans : @Bua2be
Please Take Out With Full Credit
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น